6 วิธีเก็บผงชาเขียวยังไง ให้สดใหม่อยู่เสมอ

6 วิธีเก็บผงชาเขียวยังไง ให้สดใหม่อยู่เสมอ

ชาเขียว เครื่องดื่มยอดนิยมที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย หลายคนหลงใหลในรสชาติอันหอมละมุนและสีเขียวสดใส แต่รู้หรือไม่? ว่าผงชาเขียวมีวิธีเก็บรักษาที่สำคัญไม่แพ้ขั้นตอนการชงเลย! เพราะหากเก็บไม่ดี รสชาติ กลิ่น และคุณค่าทางโภชนาการอาจเสื่อมลงได้ บทความนี้ขอพาทุกคนไปรู้จักกับ “วิธีเก็บผงชาเขียว” เก็บอย่างไรให้คงความสดใหม่ หอมอร่อย พร้อมชงดื่มได้ทุกเมื่อ

สัญญาณที่กำลังบอกว่าผงชาเขียวเสื่อมสภาพ

  1. กลิ่นชาหาย ดมแล้วไม่ได้กลิ่นหอม หรือได้กลิ่นเขียวๆแห้งของชา 
  2. ชิมแล้วมีรสเฝื่อน รสอูมามิของชาหาย มีแต่รสชาติเฝื่อน
  3. มีการเปลี่ยนสี จากสีเขียวเป็นสีเขียวอมเหลือง หรือแย่สุดคือกลายเป็นสีเทา
  4. กลิ่นน้ำชาเปลี่ยนไป จากช่วงแรกที่ชงกลิ่นชาตอนชงมีกลิ่นที่ไม่หอมเหมือนเดิม ไม่ชวนดื่ม

สาเหตุที่ทำให้ชาเขียวมัจฉะเหม็นอับ 

ชาเขียวมัจฉะเหม็นอับ เกิดจากความร้อนและความชื้น เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผงมัทฉะเหม็นอับได้ โดยบางคนหลังจากใช้เสร็จได้มีการหลีกเลี่ยงความร้อนด้วยการนำเข้าตู้เย็น ซึ่งการนำเข้าตู้เย็น จะทำให้ผงมัทฉะดูดซับกลิ่นอาหารที่อยู่ในตู้เย็นได้อย่างรวด แล้วชาเขียวมัทฉะแก้วโปรดของคุณก็จะรสชาติและกลิ่นที่ต่างไปจากดื่ม

ซึ่งภัยคุกคามอันดับหนึ่งของผงมัทฉะ คือ ออกซิเจน โดยออกซิเจนจะทำให้เกิดการออกซิไดซ์ทำให้สาร Catechins ที่อยู่ในใบชา แย่ลง ดังนั้นผงมัทฉะจะต้องเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทนั่นเอง ภาชนะที่ปิดสนิทก็มีให้เลือกหลายแบบ แต่ควรเก็บผงมัทฉะไว้ในถุงซิปล็อค หรือถุงสุญญากาศก่อนเพื่อลดการเกิดออกซิไดซ์ให้มากที่สุด

สาเหตุที่ทำให้ชาเขียวมัจฉะเหม็นอับ 

นอกจากการหลีกเลี่ยงออกซิเจนแล้ว อีกสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือ แสงแดด หรือหมายถึงควรเก็บไว้ในที่มืดหรือบรรจุภันท์ที่ไม่โดนแสงแดด เนื่องจากผงมัทฉะมาจากชาเขียวที่ปลูกในร่มชนิดพิเศษจึงต้องใช้เวลานานกว่ามากในการเจริญเติบโต ใบชาจึงผลิตคลอโรฟิลล์ในระดับที่สูงขึ้น

แต่เนื่องจากแสงแดดสามารถทำลายคลอโรฟิลล์ในใบชาได้ เพราะถ้าสัมผัสกับแสงมากๆ ผงมัทฉะอาจทำให้ชาที่ชงออกมามีรสชาติที่ไม่กลมกล่อม ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่แนะนำให้เก็บมัทฉะไว้ในภาชนะใสหรือโปร่งแสง หรือถ้าจำเป็นให้วางภาชนะใสไว้ในตู้สีเข้มที่ไม่ได้เปิดบ่อย และเมื่อหลังจากนำออกจากตู้เย็น ให้นำภาชนะเก็บชาตั้งไว้แบบปิดฝาและปล่อยให้อุ่นก่อนนำมาชง ก็จะได้มัทฉะแสนอร่อยเหมือมเดิม

ผงมัจฉะชาเขียวแช่ช่องฟรีชได้ไหม 

มีการกล่าวกันว่า สามารถยืดอายุอาหารได้ด้วยการนำเข้าช่องฟรีซ จึงเกิดความคิดที่ว่าหากนำผงมัทฉะเข้าช่องฟรีซก็อาจจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้เช่นกัน

คำตอบ คือจริง  แต่การนำชาเขียวเข้าช่องฟรีชเหมาะเฉพาะคนที่นานๆเอามาชง สามรถนำผงมัทฉะเข้าช่องฟรีซไว้ก่อนได้ ทั้งนี้ควรเก็บผงมัทฉะไว้ในภาชนะที่ปิดสนิท เพื่อป้องกันกลิ่นจากอาหารคาวในตู้เย็น

แต่หากเป็นใบชาเขียวไม่แนะนำให้นำเข้าช่องฟรีซ แต่สามารถแช่เย็นปกติได้ เพราะการแช่แข็งใบชา จะทำให้ใบชาเสียรสชาติ เพราะ ในใบชามีความชื้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมากในส่วนของรสชาติและสารอาหาร การแช่แข็งชาจะทำให้ความชื้นในใบชากลายเป็นผลึกแหลมทำลายโครงสร้างของเซลล์ใบทำให้รสชาติเปลี่ยนไป

ผงมัจฉะชาเขียวแช่ช่องฟรีชได้ไหม 

นอกจากนี้อุณหภูมิที่ต่ำจะลดกลิ่นหอมของชาลงไปอีกด้วย ซึ่งการแช่แข็งใบชา หากเราจัดเก็บไม่ดียิ่งทำให้เกิด freeze burn ขึ้นบ่อย โดยเฉพาะเมื่อใบชาถูกจัดเก็บโดยไม่มีการปิดผนึกที่ดี จึงเกิดการคายน้ำและออกซิเดชั่นจากอาหาร ใบชาที่แช่แข็งจึงได้รับความเสียหาย

ดังนั้นการเก็บรักษาใบชาที่ดี เก็บใส่ในถุงกระดาษที่สะอาด จากนั้นนำมาห่อให้แน่น แล้วใส่ถ่านไม้รอบๆห่อชาให้เต็ม นำมาเก็บไว้ในที่ที่ไม่โดนแสงแดด หรือหากใบชามีปริมาณน้อยให้ใส่ไว้ในกล่องเหล็ก แล้วใส่สารดูดความชื้นลงไป หรืออาจจะใช้ภาชนะทึบแสงเพื่อนำไปเก็บในตู้ที่ทึบแสง ซึ่งการเก็บใบชาควรหลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะที่แสงสามารถลอดผ่านได้ เนื่องจากมีผลเสียต่อใบชาสูง

วิธีการเก็บผงชาเขียวมัทฉะอย่างถูกต้อง

  1. เก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา ได้ 6 เดือน ช่องฟลีส ได้ 1 ปี แบบยังไม่เปิด 
  2. ซีนถุงใส่ชา หรือใส่ถุงปิดสนิท ไม่ให้มีอากาศเข้าได้
  3. หลีกเลี่ยงความชื้นเวลาเอาออกจากตู้เย็นให้วางทิ้งไว้จนเป็นอุณหภูมิห้องเพราะไอเย็น ร้อนในห้องจะจับทำให้เกิดความชื้นที่ผงชาจะทำให้ชาเสื่อมแม้สีจะยังสด
  4. ใส่ซองดูดความชื้น Food grade จะช่วยถนอมชาได้ดี
  5. พยายามแยกชาใส่ถุงหลายๆใบ เพื่อความสดใหม่ เวลาได้ใช้จะได้ใช้เท่าที่จำเป็น ลดสูญเสียกลิ่นของชาได้
  6. นำชาใส่ถุงซิปและนำใส่กล่องเพื่อไม่ให้ชาโดดแสงแดดและอากาศ

สรุป 

วิธีการเก็บชามีหลากหลายแบบขึ้นอยู่กับผู้ใช่ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือเก็บชาให้พ้นจากแสงแดดและหลีกเลี่ยงความชื้น เพื่อไม่ให้ผงชาหรือใบชาของเรานั้นเสียคุณภาพนั้นเอง อย่างไรก็ตามก็ขอให้ทุกท่านเพลินเพลินไปกับการชงชา โดยไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะเก็บชายังไงดี เพราะในวันนี้เราได้นำข้อมูลมาให้ทุกท่านได้ทราบเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณค่ะ