ตั้งชื่อร้านเก๋ ๆ

12 วิธีตั้งชื่อร้านเก๋ ๆ ภาษาอังกฤษและไทยให้น่าจดจำ

แจกไอเดียตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษให้น่าสนใจ ติดปาก และจำง่าย ความหมายเป็นมงคล เพื่อเสริมความมั่นใจในการเริ่มต้นธุรกิจที่สามารถใช้ได้ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นชื่อร้านในไอจี ร้านในเฟสบุ๊ค หรือว่าชื่อเว็บไซต์เอง หลายวิธีที่แตกต่างกัน ในบทความนี้เรามาแนะนำเคล็ดลับในการ ตั้งชื่อร้านเก๋ ๆ ให้เป็นทางเลือก มีทั้งหมด 12 วิธีดังนี้

1. ตั้งชื่อร้านให้ใช้ได้ทั้งไทยและอังกฤษ

คุณ TG_Min จากบอร์ดไทยเสียวได้แนะนำว่า “หากต้องการสร้างอะไรสักอย่างให้ผู้คนจดจำ อย่าใช้ภาษาท้องถิ่น เพราะจะเป็นเหมือนการปิดโอกาสตัวเองในการเข้าสู่ตลาดสากล” เว้นแต่ว่ามีจุดประสงค์เพื่อขายตัวตนเป็นหลัก แต่เผื่อทางเลือกให้คนที่ไม่รู้ด้วย เช่น ตั้งชื่อเว็บไซต์หรือโดเมนทั้งอังกฤษทั้งไทย หากสามารถทับศัพท์ได้เลยก็จะดีมาก

2. ตั้งชื่อร้านแบบมีคำนำหน้า

วิธีง่าย ๆ ในการป้องกันไม่ให้ชื่อร้านหรือชื่อเว็บไซต์ซ้ำกันคือการเพิ่มคำนำหน้าเข้าไป เช่น หากต้องการใช้ชื่อ “Cloud” แล้วมีคนใช้ไปแล้ว สามารถใช้คำว่า “thecloud” หรือสร้างคำนำหน้าอื่ นๆ ที่เหมาะสมเพิ่มเข้าไปในชื่อที่ต้องการได้  โดยสามารถค้นหาคำนำหน้าที่ต้องการแล้วนำมาใช้ในการชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ  ตั้งชื่อร้านเก๋ ๆ

3. ตั้งชื่อร้านแบบมีคำลงท้าย

หลายคนน่าจะรู้จักแอปพลิเคชั่นฟังเพลงอย่าง “spotify”รู้ไหมว่าคำลงท้ายที่ว่า -tify แปลว่าอะไร  ซึ่งการใช้คำลงท้ายในชื่อร้านอาจมีความหมายในภาษาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษก็ได้  ดังนั้นวิธีง่ายๆ คือการนำคำที่เกี่ยวข้องหรือคำที่ตรงกับธุรกิจของเรามาใส่กับคำที่ต้องการให้เป็นชื่อร้าน เช่น “Spotify” หรือ “Shopify” ด้วยวิธีนี้เราจะได้ชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ ๆ ที่ไม่ซ้ำใคร

4. ตั้วชื่อร้านต้องไม่มีคำหยาบ

เมื่อมีคำที่มีความหมายที่ไม่เหมาะสมในชื่อร้าน อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์แบรนด์ของเราได้ ดังนั้นควรเลี่ยงการใช้คำหยาบ แม้ว่าคำเหล่านั้นจะเป็นคำผวนหรือคำศัพท์เฉพาะกลุ่ม อนาคตหากเราได้ร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำ เรื่องภาพลักษณ์จะเป็นสิ่งสำคัญมาก ดังนั้นควรเลี่ยงใช้คำหยาบในการตั้งชื่อร้านเก๋ๆ  

5. ตั้งชื่อร้านไม่จำเป็นต้องมีความหมาย

ยกตัวอย่างคำว่า “Google” นั้นมักถูกนิยามว่าเป็นเครื่องมือค้นหาหรือเว็บไซต์สำหรับค้นหา แต่จริงๆ แล้วมันไม่มีความหมายเฉพาะเจาะจง เมื่อมีความหมายที่ไม่เฉพาะเจาะจง รู้สึกก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ แนะนำว่าไม่จำเป็นต้องมีความหมายในทางพจนานุกรม แต่อาจจะเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับเราหรือมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ เช่นง่ายต่อการออกเสียง ง่ายต่อการเขียน หรือง่ายต่อการจดจำ ซึ่งก็ยังถือเป็นไอเดียที่น่าสนใจในการตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ ครับ

6.ตั้งชื่อร้านทั้งที อย่ายึดโยงชื่อร้านกับสถานที่

การตั้งชื่อร้านในลักษณะที่ยึดโยงกับสถานที่ เช่น “ร้านข้าวมันไก่เจ้แดงประตูน้ำ” อาจทำให้เกิดความยากลำบากเมื่อต้องย้ายสถานที่หรือมีการเปลี่ยนเจ้าของธุรกิจ ทำให้ผู้คนจำชื่อแบรนด์ของเราได้ยาก ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการยึดโยงชื่อร้านกับสถานที่หรือบุคคล เพื่อป้องกันความยากลำบากในการแก้ไขในอนาคต

7.ตั้งชื่อร้านโดยใช้คำจากภาษาต่างประเทศ

ไอเดียในการตั้งชื่อร้านออนไลน์ที่ได้รับความนิยมคือการใช้คำจากภาษาต่างประเทศ เช่น เมื่อต้องการตั้งชื่อร้านที่เกี่ยวข้องกับคำว่า “run” แต่มีคนใช้โดเมนเนมไปแล้วและชื่อร้านยังซ้ำกับคนอื่น สามารถค้นหาคำว่า “run” ในภาษาต่างประเทศ เช่นภาษาสเปน หรือภาษาอินโดนีเซีย แล้วนำมาใช้ในการตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ ที่ง่ายต่อการจำและเขียนได้ครับ

8.ตั้งชื่อแบบยาวๆ หลายพยางค์

การตั้งชื่อร้านให้ยาวก็จะทำให้ชื่อนั้นโดดเด่นมากขึ้นได้เช่นกัน โดยสามารถใช้ 2-3 พยางค์ในชื่อร้าน เช่น เว็บไซต์ “mission to the moon” เป็นตัวอย่างที่ดี นี่เป็นวิธีในการตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ ที่มีความหมายและยังสร้างความสนใจอีกด้วย

9.ตั้งชื่อร้านแบบเอาคำมารวมกัน

อย่างคำว่า “voom” ไม่มีความหมายเชิงพจนานุกรม แต่มาจากว่า “Video Room” หรือ “Visual Room” รวมกับคำว่า “Boom” เข้าด้วยกัน โดยการรวมคำเหล่านี้เข้าด้วยกันจะสร้างชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ ซึ่งยังไม่ซ้ำใครเลยครับ

10.ตั้งชื่อร้านให้จำง่าย

เพราะคนเราชอบจำอะไรง่ายๆ ดังนั้นชื่อร้านควรจำง่าย เมื่อคนจำง่ายแล้วก็จะสามารถแนะนำต่อคนอื่นได้ไม่ยาก เช่น “Google” หรือ “Facebook” หรือแม้กระทั่ง “Microsoft” เป็นตัวอย่างชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ ที่ง่ายต่อการจดจำ

11.ตั้งชื่อร้านด้วยจุดเด่นของสินค้า

การตั้งชื่อร้านที่แสดงถึงสินค้าที่ขายหรือใช้ชื่อสินค้าเป็นตัวตนของร้านค้าเป็นวิธีที่หลายร้านค้าออนไลน์นิยมใช้ เพราะชื่อที่เน้นจุดเด่นหรือชื่อสินค้าจะช่วยให้ลูกค้าจดจำและรู้ว่าร้านของเราขายสินค้าอะไร ร้านค้ามีสไตล์การขายสินค้าใดบ้าง บางร้านอาจใช้ชื่อร้านเป็นตัวแทนของสินค้า เช่น “จานกระเบื้องญี่ปุ่น” เป็นต้น

12. ตั้งชื่อร้านโดยใช้ AI มาช่วย

สุดท้ายเป็นการใช้เครื่องมือมาช่วยตั้งชื่อร้าน ไม่ว่าจะเป็น Gimini, ChatGPT, Bling ด้วย Prompts หรือชุดคำสั่งต่าง ๆ ทำให้การตั้งชื่อร้านง่ายและประหยัดเวลามากขึ้น หรือถ้าหากใครมีชื่อร้านในใจอยู่แล้ว แต่อยากลองปรับให้น่าสนใจมากขึ้นเจ้า AI พวกนี้ก็จะช่วยเราได้เหมือนกัน

สรุป

ในการตั้งชื่อร้านเก๋ๆ น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์ สามารถทำได้หลากหลายวิธีตามความถนัดและสนใจ เช่น การใช้ภาษาไทยและอังกฤษร่วมกัน การใส่คำนำหน้า เลือกใช้คำลงท้าย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำอื่นๆ เช่น หลีกเลี่ยงการใช้คำหยาบ การตั้งชื่อที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานที่ การผสมคำเข้าด้วยกัน การใช้คำจากภาษาต่างประเทศ และการใช้เว็บไซต์ช่วยตั้งชื่อร้าน เช่น namelix.com เพื่อค้นหาชื่อร้านเก๋ ถูกใจ น่าจดจำ ดังนั้น อย่ารอช้า! จงตั้งชื่อร้านของคุณให้เก๋ๆตามแนวทางที่เราแนะนำไปได้เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง