หยก (ยู่/เง็ก) อัญมณีอันล้ำค่าที่ชาวจีนยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณธรรม 5 ประการ คือ ใจบุญ สมถะ กล้าหาญ ยุติธรรม และมีสติปัญญา เปรียบเสมือนเครื่องรางนำสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย และอายุยืนยาว ชาวจีนจึงมีความผูกพันกับหยกตั้งแต่เกิดจนตาย
ดังนั้น ชาวจีนในสมัยก่อนไม่ว่าจะเป็นชนชั้นใด จึงนิยมใช้หยกเป็นเครื่องประดับและเครื่องใช้ เช่น พระจักรพรรดิใช้หยกเป็นตราพระราชลัญจกร พระธำมรงค์ พระคทา หรือพระที่นั่ง ชาวจีนทั่วไปมักจะให้ลูกหลานของตนพกหยกติดตัวไว้เสมอ ถ้าเป็นเด็กหญิงจะสวมกำไลหยก แต่ถ้าเป็นเด็กชายก็จะพกเครื่องใช้ที่ทำด้วยหยกหรือจี้พระหยก
ซึ่งหยกนั้นมีหลายสีแต่ละสีก็มีการให้ความหมายที่แตกต่างกัน ในวันนี้เราทำมาความรู้จักความหมายของหยกแต่ละสีและวิธีการทำความสะอาดหยกกันค่ะ
ความหมายของหยกแต่ละสี
หยกสีเขียว : หยกสีเขียว เป็นสีได้รับความนิยมมากที่สุด ครองตำแหน่งราชาแห่งอัญมณี ด้วยเฉดสีเขียวที่ไล่เรียงตั้งแต่เขียวอ่อนละมุนไปจนถึงเขียวเข้มขลัง เป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวย มั่งคั่ง และอุดมสมบูรณ์
นอกจากนี้เฉดสีเขียวยังมอบความผ่อนคลาย สบายตา สบายใจ ช่วยให้จิตใจสงบ เปี่ยมไปด้วยพลังบวก หยกเขียวที่ขึ้นชื่อเรื่องความหายาก สวยงาม และราคาแพงที่สุด คือ “หยกสีเขียวจักรพรรดิ์” พบได้เฉพาะในหยกเจดไดด์เท่านั้น
หยกสีม่วง : หยกสีม่วง เฉดสีอันลึกลับ น่าค้นหา ที่ได้รับความนิยมรองลงมาจากหยกสีเขียว ประกายสีม่วงอ่อนไล่เรียงไปจนถึงม่วงลาเวนเดอร์ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งความสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พลังอันลี้ลับของหยกสีม่วงช่วยเยียวยาจิตใจ บรรเทาความเจ็บปวด ช่วยให้ผู้สวมใส่มีจิตใจที่อดทนอดกลั้น เผชิญปัญหาต่างๆ ด้วยความสงบ ผ่อนคลาย นำพาความสุขมาสู่ชีวิต
หยกสีดำ หรือ สีเทา : หยกสีดำและสีเทา เป็นสีแห่งความอมตะ มีพลังต้านพลังด้านลบสูง หรือสิ่งที่ไม่ดีมาสู่เจ้าของหยก และความร่ำรวยเงินทองไหลมาเทมา
หยกสีแดง : หยกสีแดง โทนสีแดงและสีน้ำตาลช่วยกระตุ้นการมีชีวิตชีวาส่งเสริมพลังงานมีผลในกายเสริมสร้างเซลล์ใหม่ๆในร่างกาย ช่วยลดความโกรธและความเครียดได้เป็นอย่างดี
หยกสีขาว : หยกสีขาว เกี่ยวกับความโขคดี ความบริสุทธ์ และความมีอายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง
หยกสีเหลือง หรือหยกน้ำผึ้ง : หยกสีเหลือง เป็นสีแห่งพลังงานและความีชีวิตชีวา ก่อให้เกิดความทรงจำและความระลึกถึง ความอบอุ่นบ่งบอกถึงการติดต่อสัมพันธ์ รวมถึงเป็นสีที่ช่วยให้สามารถจำปนกแจกแจงได้ว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด
หยกสีฟ้าแกมเขียว : สีฟ้าแกมเขียวเป็นสัญลักษณ์แห่งคสามสงบ ทำให้เกิดความสุขภายในจิตใจ ไม่ว้าวุ่น
หยกสีฮกลกซิ่ว : หยกสีฮกลกซิ่ว หมายถึง หยกที่ มี 3 สีภายในวงเดียวกันอย่างชัดเจน เด่นในเรื่อง โชคลาภ วาสนา และอายุยืน ความเจริญในชีวิตที่มากยิ่งๆขึ้น ถือเป็นสีหยกที่ได้รับความนิยมใกล้เคียงกับหยกสีเขียว
หยกกินบ่อเสี้ยน : ตามตำรา กินใช้ไม่มีวันหมด เป็นหยกที่มีลักษณะ คือ มี 2สี อยู่ในวงเดียวกัน
นอกจากนี้ ชาวจีนยังเชื่อกันว่าหยกเป็นดั่งเกราะป้องกันผู้สวมใส่จากภยันตรายทั้งปวง เปรียบเสมือนเครื่องรางบอกเหตุที่บ่งบอกถึงโชคชะตาผ่านสีสันของหยก กล่าวคือหยกสีสดใสเปล่งประกายสื่อถึงโชคลาภที่กำลังหลั่งไหลเข้ามา ตรงกันข้ามหากหยกมีสีหมองลงหรือมองเห็นรอยร้าว บ่งบอกถึงเคราะห์กรรมที่อาจมาเยือน โดยชาวจีนนิยมนำหยกมาแกะสลักเป็นรูปสัตว์มงคลต่าง ๆ เช่น ปลา เต่า จิ้งหรีด และหน้าเสือ เพื่อเสริมพลังสิริมงคลแก่ผู้สวมใส่
5 วิธีเพิ่มพลังให้กับหยกด้วยธรรมชาติ
ชาวจีนยังเชื่อกันว่าหยกนั้นมีพลังเหนือธรรมชาติที่จะส่งผลต่อผู้สวมใส่โดยผู้สวมใส่สามารถเพิ่มพลังและชำระพลังงานสกปรกให้แก่หยกได้ โดยมีวิธีดังนี้
1. ล้างพลังด้านลบด้วยสายน้ำ
มี 2 วิธี คือ 1. วางหยกกลางแจ้งให้สายฝนชำระล้างพลังด้านลบ เชื่อกันว่าพลังจากพระพิรุณจะชำระล้างสิ่งไม่ดี หรือ 2.) หากไม่สะดวกให้วางหยกในตะกร้าที่มีรูน้ำลอด เปิดน้ำก๊อกไหลผ่าน 10-20 นาที ระหว่างนี้ห้ามจับหินหยก ปล่อยให้แห้งเอง วิธีนี้จะช่วยให้หยกเย็น สบาย สงบ อยู่เย็นเป็นสุข
2. รับพลังจากสุริยาในยามเช้า
ด้วยการนำหยกไปรับแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้าตรู่ (7-9 น.) ประมาณ 20 นาที พลังแห่งแสงอาทิตย์จะช่วยเสริมพลัง อำนาจ และบารมีให้หยกเปล่งประกายเจิดจรัสในทุกทิศทาง
3. อาบแสงจันทรา ในคืนวันเพ็ญ
ด้วยการนำหยกไปรับแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้าตรู่ (7-9 น.) ประมาณ 20 นาที พลังแห่งแสงอาทิตย์จะช่วยเสริมพลัง อำนาจ และบารมีให้หยกเปล่งประกายเจิดจรัสในทุกทิศทาง
ในคืนวันข้างขึ้น 15 ค่ำ เชื่อกันว่าพระจันทร์เต็มดวงเปี่ยมพลังอันศักดิ์สิทธิ์ นำหยกไปอาบแสงจันทร์เพื่อดึงพลังแห่งความสุขสงบ ความรัก ความงาม โชคลาภ และความอุดมสมบูรณ์ เปี่ยมไปด้วยพลังบวกจากเทพผู้ประทานความสุขแก่สรรพสิ่งบนโลก
4. เพิ่มพลังหยกให้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยพลังพุทธคุณ
นำหยกไปสักการะพระพุทธรูปหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพ สวดมนต์ ขอพร และแผ่เมตตา วนหยกเหนือกระถางธูป วนซ้าย 3 รอบ วนขวา 3 รอบ เพื่อขจัดพลังลบ เพิ่มพลังให้หยก
และเมื่อไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีคนจุดธูปไหว้พระ ให้ทำตามวิธีนี้ กลิ่นธูปและพลังงานจะช่วยจัดเรียงโมเลกุลหิน เสริมพุทธคุณ คุ้มครองให้มีความสุข ปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย และแคล้วคลาดปลอดภัยทุกประการ
5. เพิ่มพลังชีวิตด้วยผืนดิน
หยกเป็นวัตถุธาตุดินประเภทหนึ่ง หากรู้สึกว่าหินที่เราใส่อยู่รับ หากรู้สึกว่าหยกที่เราใส่อยู่รับพลังด้านลบมามาก หรือมีรอยร้าว แตก ให้คืนพลังและวัตถุธาตุสู่ผืนดินด้วยวิธีการฝังดิน
วิธีทำความสะอาดหยก ด้วยตนเอง
แน่นอนว่าหยกนั้นเป็นอัญมณีที่มีราคาสูง ก็จะต้องมีการทำความสะอาดเพื่อให้หยกนั้นดูสวยและสะอาดการที่เราจะทำความสะอาดหยกได้นั้นเราจะต้องรู้วิธีการทำความสะอาดที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้หยกมีรอยจากการทำความสะอาด โดยขั้นตอนการทำความสะอาดมีดังนี้
1.นำหยกมาล้างน้ำสะอาด
2.แช่ด้วยน้ำยาทำความสะอาดอย่างอ่อน
3.เช็ดให้แห้งด้วยผ้าที่สะอาดและนุ่ม
ข้อควรระวัง ไม่ควรนำผ้าที่ไม่สะอาดหรือมีฝุ่นมาเช็ดหยกได้เพราะหยกอาจเกิดรอยได้จากการถูสัมผัสกับผ้าที่มีฝุ่น
กรณีหยกเกรดปานกลางหรือมีรอยร้าว
มีขั้นตอนการทำความสะอาดดังนี้
1.ใช้เบบี้ออย จุ่มด้วยก้านสำลีแล้วเช็ดลงบนผิวหยกเบา ๆ
2.ทิ้งไว้สัก 10 นาทีให้น้ำมันซึมเข้าไปในเนื้อหยก
วิธีนี้จะช่วยรักษาสภาพไม่ให้แห้งเกินจนเกิดร้อยร้าวที่เห็นชัดได้ โดยวิธีนี้นั้นจะใช้สำหรับรักษาหยกเก่าที่เราใช้มานานเท่านั้น
สรุป
หยกนั้นเป็นอัญมณีที่ทรงคุณค่าทั้งในเรื่องของราคาและความเชื่อต่างๆ และการที่เราใส่หยกไปนานๆอาจะมีความสกปรกและหมดพลังงานได้ โดยการทำความสะอาดนั้นก็ไม่ยุ่งยากสามารถทำเองได้และการเพิ่มพลังให้แก่หยกนั้นก็สามารถทำเองได้เหมือนกันแต่หากต้องการรักษาคุณภาพของหยกควรจะนำส่งให้กับทีมช่างที่มีความเฉพาะในเรื่องหยกนั้นเอง