นิยายสั้น เรื่อง ชงรักรสกาแฟ

โซ่ : เจ้าของร้านกาแฟ

อายุ : 25 ปี            

เจ้าของธุรกิจร้านกาแฟที่เป็นที่นิยมของผู้คนในซอยและด้วยดีกรีอดีตบัณฑิตสาขาบริหารธุรกิจ เขาจึงดูแลบริหารงานในร้านได้เป็นอย่างดี

 บี : นักศึกษา/พนักงานฝึกงาน

อายุ : 20 ปี

นักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ที่พกความน่ารักมาเต็มร้อย ทั้งรูปร่างหน้าตาก็ดูน่ารัก เป็นคนเรียบร้อย  มีเพื่อนสนิทหนึ่งคน ชื่อ แอปเปิ้ล เป็นคนที่อัธยาศัยดี

แอปเปิ้ล : เพื่อนของบี

อายุ : 20 ปี

เป็นเพื่อนที่อยู่ห้องเดียวกับบี เธอสนิทกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง เธอเป็นคนพาเพื่อนไปรับประทานอาหารที่ร้านกาแฟที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนัก ทั้งสองคนประทับใจรสชาติอาหารร้านนี้มาก

ครีม : แฟน(เก่า)ของพระเอก

อายุ : 23 ปี

เธอเป็นแฟนเก่าของโซ่ เจ้าของร้านกาแฟ ที่กลับมาหาเขาที่ร้านกาแฟ หลังจากที่เลิกกับเขาไปนานแล้ว

………………………………………………….

ในยามเช้า ถนนที่เคยมีเสียงรบกวนเพียงเล็กน้อย กลับเต็มไปด้วยเสียงอึกทึก ทั้งเสียงของรถที่กำลังแข่งกับเวลาเพื่อไปให้ทันทำงานหรือทำธุระของตน เสียงรถโดยแล่นเข้าออกในซอย เพื่อเข้ามารับเด็กนักเรียนไปยังสถานศึกษา เสียงแตรรถที่ดังเป็นระยะ กระทั่งเสียงก่นด่าของคนใช้รถใช้ถนน เป็นภาพต้อนรับเช้าวันใหม่ที่ผู้คนเห็นจนชินตาไปซะแล้ว

เจ้าของร้านกาแฟที่อยู่ต้นซอยระบายยิ้มเต็มใบหน้า เมื่อเบนสายตาไปเห็นเด็กๆที่กำลังทยอยกันขึ้นรถ พาให้นึกถึงเมื่อครั้งที่เขายังเป็นเด็ก ไม่นานนักเขาก็สะบัดความคิดออกไปจากหัว แล้วไปจดจ่ออยู่กับข้าวของภายในร้านของตนเองแทน

“โซ่” เจ้าของร้านกาแฟที่ได้รับความนิยมจากผู้คนภายในซอยนี้เป็นอย่างมาก พอร้านเปิดก็จะมีลูกค้าเข้ามาจำนวนมาก จนบางครั้งก็วุ่นวายจนทำแทบไม่ทัน สมัยมหาวิทยาลัยเขาเลือกเรียนสาขาบริหารธุรกิจ และเมื่อเรียนจบเขาก็เริ่มสร้างธุรกิจนี้มาด้วยมือของตัวเอง โดยไปศึกษาการทำกาแฟที่ต่างประเทศอยู่หลายเดือน จนกลายเป็นธุรกิจที่เป็นรายได้หลักจนถึงทุกวันนี้

เมื่อโซ่ทำความสะอาดร้านและจัดแจงข้าวของต่าง ๆ เสร็จสรรพ เขาก็พลิกป้าย “OPEN” เพื่อให้ผู้คนที่ผ่านไปมาได้มองเห็นว่าร้านนี้พร้อมต้อนรับทุกคนแล้ว

“ร้าน Coffee By Z ยินดีต้อนรับครับ”

……………………………

ตึกคณะศิลปกรรมศาสตร์

เสียงพูดคุยจอแจที่ดังออกมาจากในห้องนั้นบ่งบอกว่า ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว ตามมาด้วยเสียงก้าวเท้าฉับ ๆ ของกลุ่มนักศึกษา ไม่นานตึกทั้งตึกก็แทบจะไร้เงาผู้คน เหลือเพียงนักศึกษาสาวสองคนที่ยังอยู่

“นี่ยัยบี! ฉันหิวจะแย่แล้วนะ แกรีบเก็บของไว ๆ หน่อยได้ไหมเนี่ย!” หญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยปากเร่งเพื่อนสนิทด้วยอความหงุดหงิด หลังจากนั่งรออีกฝ่ายมาสักพักแล้ว

“โอเคๆ เสร็จแล้ว…วันนี้จะไปกินอะไรดีล่ะ” คนที่กำลังกระวีกระวาดรีบเก็บข้าวของเอ่ยถาม พยายามไม่ให้เพื่อนอารมณ์เสียไปมากกว่าที่เป็นอยู่

“บี” นักศึกษาสาวปีสองจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ เธอเริ่มสนิทกับเปิ้ลตั้งแต่ตอนปีหนึ่ง เธอชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กและยังจัดว่าเป็นเด็กเรียนเก่งคนหนึ่ง อีกทั้งยังหน้าตาน่ารักอีกด้วย ผมยาวประบ่า ตัวเล็ก น่าทะนุถนอม แม้จะดูบอบบางแต่กลับเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นสูง ต่างจากภาพลักษณ์ภายนอกโดยสิ้นเชิง

“ฉันว่า…ฉันคิดออกแล้วว่าเราจะไปกินข้าวที่ไหนดี” แอปเปิ้ลหันมาพูดกับบีแล้วเดินนำไปยังร้านที่เธอคิดเอาไว้

บีส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะเดินตามหลังเพื่อนสนิทไป ยามพูดถึงเรื่องกินเพื่อนคนนี้จะอารมณ์ดีขึ้นมาได้ไม่ยาก จึงไม่แปลกในยามที่โดนอีกฝ่ายโกรธ เธอจะต้องหิ้วของโปรดของเพื่อนไปง้อด้วยทุกที

นักศึกษาสาวทั้งสองเดินไปตามทางที่คุ้นเคย แอปเปิ้ลชี้ให้บีดูแผนที่บนใบปลิวของร้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเท่าไรนัก ไม่นานทั้งสองคนก็มาหยุดอยู่ด้านหน้าร้านเบเกอรี่และเครื่องดื่มชื่อดัง ทั้งสองก้มมองชื่อร้านบนแผ่นกระดาษในมือสลับกับป้ายชื่อร้านเพื่อความแน่ใจว่ามาไม่ผิดจริงๆ ก่อนจะพากันเข้าไปด้านใน

“ร้าน Coffee By Z ยินดีต้อนรับครับ” เจ้าของร้านกาแฟสุดหล่อเอ่ยทักลูกค้าที่เข้ามาใหม่ ด้วยรูปร่างที่สูงราวกับนายแบบ ไหนจะผมสีน้ำตาลทองที่ดูแปลกตา อีกทั้งเสียงที่อ่อนหวานราวกับเจ้าชายนั้น ทำให้ทั้งสองสาวหันมาให้ความสนใจ แต่ไม่นานนักแอปเปิ้ลและบีก็เรียกสติตัวเองกลับมาได้

“อะ…เอ่อ…คือ…ค่ะ…เดี๋ยวเราไปจองโต๊ะกันนะบี” แอปเปิ้ลพูดเสียงตะกุกตะกักเล็กน้อยยามสติยังไม่เต็มร้อย พร้อมสะกิดเพื่อนสาวคนให้ไปจองโต๊ะด้วยกัน

ในขณะที่สองสาวกำลังเดินไปจองโต๊ะ สายตาของเจ้าของร้านหนุ่มก็มองไปที่บี เขาอมยิ้มเล็กน้อย  

….บีเหรอ แค่ชื่อก็ยังน่ารักเลย….

โซ่หันกลับมาจดจ่อกับงานที่กำลังทำค้างไว้ เมื่อรู้ว่าตนเองกำลังใจลอย…

เมื่อถึงเวลาปิดร้าน เจ้าของร้านหนุ่มหน้าตาดีก็ขับรถกลับบ้านโดยทันที เขาทำอย่างนี้ประจำทุกวัน เพราะตั้งแต่เลิกกับแฟนเก่าอย่าง “ครีม” โซ่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องนั่งรอคอยใครหลังร้านปิดอีกต่อไป

ชายหนุ่มนั่งจดจ่ออยู่กับงาน สายตาจับจ้องอยู่กับสมุดบัญชีรายรับรายจ่ายของร้าน ในขณะที่นิ้วก็จิ้มลงบนแป้นของเครื่องคิดเลขซ้ำไปมา สมองคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรให้ขายได้ทันใจลูกค้า

….หรือว่าเขาต้องมียี่สิบมือแบบทศกัณฐ์…หรือต้องแยกร่างได้แบบนินจากันนะ

โซ่สะบัดศีรษะไล่ไอเดียที่เป็นไปไม่ได้ออกไปจากระบบความคิด แม้จะอยากให้มันเป็นแบบนั้นจริงๆก็เถอะ ขืนมัวแต่คิดเรื่องไร้สาระมีหวังร้านคงแย่

ถึงแม้ร้านของเขาจะกอบโกยรายได้จำนวนมาก แต่เขากลับรู้สึกว่างานก็หนักมากขึ้นตามจำนวนเงินจนเหนื่อยกว่าปกติหลายเท่า แถมยังต้องแลกกับความไม่พอใจของลูกค้าที่ต้องรอนานกว่าเดิม และไม่แน่ว่าเขาอาจต้องเสียลูกค้าไปในสักวันหากยังเป็นเช่นนี้ แต่แล้วความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามา

“เปิดรับพนักงานผู้ช่วยฝึกหัดสักคนท่าจะดีแฮะ! เราจะได้เหนื่อยน้อยลง” โซ่พยักหน้าเบาๆกับความคิดของตนเอง

………………………………..

 หลังจากที่เรียนมาทั้งสัปดาห์ก็ถึงเวลาที่จะได้หยุดพักสมอง บีถอนหายใจรู้สึกโล่งอย่างประหลาด วันนี้เป็นคืนวันศุกร์ที่เธอต้องการจะพักผ่อน แต่เมื่อคิดว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี…ชื่อของร้านกาแฟเจ้าประจำก็แว๊บขึ้นมาในหัวทันทีจนเธอยังแปลกใจกับความคิดของตัวเอง

“ไปร้านกาแฟดีกว่า” เธอกล่าวขึ้นน้ำด้วยน้ำเสียงที่ดูสดชื่น เมื่อรู้ว่าตนเองได้ที่พักผ่อนสมองอย่างที่ตั้งใจแน่แล้ว

บ้านพักของบีนั้นอยู่ซอยถัดไปจากร้านกาแฟนี่เอง เธอคว้าจักรยานสีชมพูคันโปรดขี่มายังร้านกาแฟ ก่อนจะจอดมันไว้หน้าร้านข้างๆมอเตอร์ไซค์ของลูกค้าอีกคน ก่อนที่หางตาจะเหลือบไปเห็นกระดาษเอสี่ที่แปะอยู่บนกระจก

“รับสมัครพนักงานผู้ช่วย 1 อัตรา” เธออ่านออกเสียงเบา ๆ มือเรียวผลักประตูเข้าไปทักทายเจ้าของร้านคนเดิม ที่กำลังจัดแจงข้าวของบนเคาน์เตอร์ ไม่นานนักสายตาของเขาก็หันมาสบกับดวงตาของเธอ

“สวัสดีค่ะ บีสนใจจะสมัครเป็นพนักงานผู้ช่วยที่ร้านค่ะ” บีกล่าวทักทาย ก่อนจะบอกจุดประสงค์ที่มา พร้อมกับแจกยิ้มหวานให้คนตรงหน้า

“อ๋อ…ถ้าอย่างนั้น เชิญนั่งก่อนสิครับ” เจ้าของร้านตัวสูงลุกขึ้น จากนั้นก็เชื้อเชิญให้เธอนั่งรอตรงเก้าอี้สีขาวที่เขาได้เตรียมไว้ให้

“ผมขออนุญาตสัมภาษณ์หน่อยนะครับ…ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อน ผมชื่อโซ่ครับ”       

เขาเลือกจะพูดคุยด้วยท่าทางที่เป็นกันเองเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายอึดอัด แม้จะเคยเจอกันบ่อยๆแล้วก็ตาม พร้อมกับยื่นใบสมัครให้กรอกข้อมูล ระหว่างที่คุยกันหญิงสาวกลับไม่อาจละสายตาจากอีกฝ่ายได้เลย

“มาลองฝึกทำกาแฟดูนะครับ พี่ให้บีช่วยชงกาแฟก่อนแล้วกันนะ” เขายิ้มแล้วหันไปเตรียมอุปกรณ์รอเธอที่กำลังวางสัมภาระส่วนตัวตรงที่ที่เขาบอก

“ก่อนอื่นเราก็จะต้องแพ็คกาแฟให้แน่นก่อนนะครับ” เจ้าของร้านหันไปหยิบอุปกรณ์แล้วทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เมื่อบีได้สังเกตท่าทางตอนที่ชายหนุ่มทำงานก็อมยิ้มเล็กน้อย มันดูเท่มากในสายตาของเธอ ท่าทีที่มุ่งมั่นและตั้งใจนั้นทำให้เธอเริ่มสนใจเขามากขึ้นเรื่อยๆ…เธอคงชอบเขาแล้วจริง ๆ

“เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ….ลองทำดูครับ” โซ่ยื่นอุปกรณ์ทำกาแฟชุดใหม่ให้เธอ

บีพยายามทำกาแฟอย่างตั้งใจ ตักกาแฟใส่ลงไปให้เต็ม จากนั้นปาดส่วนที่เกินออก แล้วนำที่แพ็คเข้าเครื่องชงกาแฟ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า…

“อ้าว! ทำไม่ไม่เข้าล็อกล่ะ” เธอหมุนอุปกรณ์พยายามทำให้มันเข้าที่ จนเจ้าของร้านมองอย่างเอ็นดู รีบเข้าไปช่วยเธอ

“ไหนครับ ขอดูหน่อย” โซ่เดินไปที่หน้าเครื่องชงกาแฟ มือหนาจับที่แพคไว้แน่น จากนั้นก็กดแล้วนำเข้าเครื่อง เมื่อสำเร็จเขาและเธอก็หันมายิ้มให้กัน เหมือนเวลาผ่านไปนานจนเมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง ก็พบว่ามือของโซ่นั้นวางอยู่บนมือของบี

“เอ่อ…ขะ…ขอโทษครับ” เจ้าของร้านรีบกล่าวคำขอโทษที่พลั้งเผลอไปจับมือของอีกฝ่าย ในขณะเจ้าตัวก็เพียงพยักหน้าช้าๆพลางเกาท้ายทอยแก้เขิน

วันนี้ทั้งโซ่และบีได้ใช้เวลาร่วมกันในการชงกาแฟแบบพื้นฐาน หญิงสาวสามารถเรียนรู้ได้ไว จึงไม่ยากที่ผลงานจะออกมาดี เจ้าของร้านหยิบเอสเปรสโซช็อตมาชิมรสชาติที่ได้

“ผลงานวันนี้ผ่านนะครับ…ไว้พรุ่งนี้มาชงกาแฟด้วยกันนะครับ” โซ่ยิ้มกว้างให้กับว่าที่พนักงานใหม่ของร้าน

“ขอบคุณมากๆเลยนะคะที่รับบีเข้าทำงาน…พรุ่งนี้เจอกันค่ะ” เธอยิ้มให้เขาพร้อมก้มศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อแสดงความขอบคุณ

ในขณะที่บีออกจากร้าน ก็มีใครคนหนึ่งแอบสังเกตการณ์อยู่เงียบๆในมุมมืดที่ไม่มีใครสนใจจะมองจนกระทั่งนักศึกษาสาวเดินผ่านไปสักพัก ผู้ที่แอบซุ่มดูเหตุการณ์นั้นก็ชักสีหน้า ใส่หน้ากากผ้าสีดำแล้วหันหลังกลับไปขึ้นรถยนต์ที่จอดอยู่ไม่ไกล

“ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะคะ…ที่รัก” สิ้นเสียงเอ่ยลาที่เจ้าตัวไม่อาจได้ยิน รถสีขาวคันหรูก็กระชากตัวออกไปจากบริเวณนั้นทันที

…………………………………………….

เช้าวันนี้บีตัดสินใจเข้าไปหาเจ้าของร้านหนุ่ม เพื่อไปคุยธุระด้วยเล็กน้อย เธอยังมีเวลาในการเตรียมตัวเข้าเรียนอีกหลายชั่วโมง ดังนั้นจึงไม่ได้บอกเพื่อนสนิทอย่างแอปเปิ้ลว่าจะออกไปที่มหาวิทยาลัย เมื่อไปถึงก็พบว่าโซ่มาเปิดร้านเรียบร้อยแล้ว

“อ้าว…น้องบี วันนี้ทำไมมาแต่เช้าล่ะครับ” เจ้าของร้านทักทายเด็กฝึกงานใหม่ที่เขาเข้าใจว่าจะว่างจากการเรียนในตอนบ่าย

“วันนี้บีตื่นเช้าค่ะ ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยมาช่วยที่ร้าน” นักศึกษาสาวกล่าวขณะกำลังก้มลงเช็ดโต๊ะและเคาน์เตอร์

ขณะนั้นสายตาของโซ่ก็พลันเห็นว่าเส้นผมที่ไม่ได้ยาวมากนักของเธอกำลังปลิวระใบหน้าสวยหวาน ชายหนุ่มแอบมองอย่างเอ็นดู ก่อนเดินเข้าไปใกล้ๆโดยไม่ให้เจ้าตัวตกใจ

“บี อยู่นิ่ง ๆ แป๊บนึงนะ” สิ้นเสียงเตือน เส้นผมอ่อนนุ่มก็ถูกเกี่ยวไปทัดหูด้วยฝีมือของโซ่ หญิงสาวที่ไม่ทันตั้งตัวจึงได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ รีบหลบสายตา ก่อนที่มือหนาจะค่อยๆเชยคางของเธอให้ขึ้นมามองหน้าเขา แก้มทั้งสองขึ้นสีระเรื่อโดยที่เธอไม่ทันรู้ตัว ยิ่งสบสายตาที่คล้ายจะสื่ออะไรบางอย่างเธอกลับยิ่งรู้สึกประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก

“บี….เอ่อ….พี่….พี่…” เจ้าของร้านหนุ่มหล่อพูดจาตะกุกตะกัก

“พี่โซ่คะ…” หญิงสาวในลุคเดรสสั้นสีดำสุดเซ็กซี่ รีบเดินตรงปรี่เข้ามาหาเจ้าของร้าน พลางเบียดแทรกกลางระหว่างสาวนักศึกษา สายตาไม่เป็นมิตรของจับจ้องที่บีอย่างไม่ปิดบัง ก่อนจะหันกลับไปอ้อนเจ้าของร้าน

“พี่โซ่คะ…พี่รู้ไหม?  ว่าครีมน่ะ คิดทึ้งง คิดถึงพี่” เธอแสดงท่าทีออดอ้อน โดยไม่สนใจสายตาที่บ่งบอกว่าไม่พอใจของชายหนุ่มแม้สักนิด

“ไม่รู้..ไม่อยากรู้ด้วย ปล่อยผม!!” เจ้าของร้านสุดหล่อสะบัดแขนออก พร้อมมองไปยังสาวด้วยสีหน้าลุแก่โทษ

“บีขอกลับบ้านก่อนนะคะ ไม่อยากรบกวน..เผื่อพวกคุณมีธุระจะคุยกันค่ะ ” เธอกระพริบตาถี่ไล่หยาดน้ำที่เอ่อคลอ ก่อนจะรีบลุกออกจากร้านไป

“ดะ…เดี่ยว บี!” โซ่ต้องการตามไป แต่กลับถูกห้ามไว้โดยหญิงสาวที่มาใหม่ เธอวิ่งมากอด เขาจึงแงะแขนของเธอออก

“พอเถอะครีม!! พี่ไม่ได้รักเธอแล้ว จะพยายามแค่ไหนก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้หรอกนะ” โซ่ยืนยันอย่างเด็ดขาด

“ก็ได้ค่ะ แต่ที่มาคราวนี้ครีมไม่ได้มาทำให้พี่เดือดร้อนนะคะ” สาวสวยยังคงอ้อนเสียงหวาน

“เดือดร้อนสิ เธอทำให้พี่เสียเวลามามากแล้ว ออกไปเถอะ” เจ้าของร้านหนุ่มเปิดประตูร้านให้เธอ หญิงสาวจึงต้องจำใจยอมออกไป

……………………………………………..

เย็นวันนั้นหญิงสาวชวนเพื่อนซี้ไปที่ร้านกาแฟด้วยกัน เธอเล่ารายละเอียดทุกอย่างให้แอปเปิ้ลฟังด้วยน้ำเสียงปกติ ถึงแม้ข้างในจะรู้สึกเจ็บมากก็ตาม

“เปิ้ล..วันนี้ไปร้านกาแฟที่เดิมกัน..ฉันมีเรื่องเล่าให้แกฟังเต็มเลย” บีพยายามฝืนยิ้ม ทำร่าเริง

“นี่พี่เขาสอนแกเต็มที่มากเลยจริง ๆ ชงให้ฉันดื่มด้วยสิ” แอปเปิ้ลทำหน้าตาออดอ้อน ส่วนบีก็หัวเราะในท่าทางของเพื่อนสนิท

………………………………………….

ไม่นานนักบีและแอปเปิ้ลก็มาถึงร้านกาแฟเจ้าเดิม เจ้าของร้านหนุ่มยิ้มให้ทั้งสองสาวพร้อมเดินไปเปิดประตูต้อนรับ

“พี่โซ่คะ…บีขอลาออกนะคะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว จนเพื่อนและเจ้าของร้านตกใจไม่ใช่น้อย

“บี…ถ้าบีจะไปเพราะเรื่องงานก็ได้ แต่บีอย่าไปเพราะว่าเรื่องเมื่อวานเลยนะ”

 เจ้าของร้านกล่าวพร้อมแววตาที่สะท้อนความเสียใจ  แต่หญิงสาวก็แสดงให้เห็นว่าเธอลำบากใจมากแค่ไหนกับคำขอร้องของเขา โซ่จึงจับมือของเธอเอาไว้ แอปเปิ้ลที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นรู้จังหวะ จึงหลบไปมองอยู่ห่าง ๆด้วยความห่วงใยเพื่อน

“หลับตาก่อนนะบี รอพี่ก่อนนะ” เขารอให้เธอหลับตา

“เป็นแฟนกับพี่นะ บี พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้บีเสียใจอีกแล้ว” เขาคุกเข่าแล้วยื่นช่อดอกไม้สีขาวที่สื่อถึงความรักอันบริสุทธิ์ให้แก่เธอ ทำเอาหญิงสาวยืนอึ้ง ไม่คิดว่าเขาจะมารักคนอย่างเธอได้

“ค่ะ…พี่โซ่…หนูชอบพี่นะคะ” เธอพูดมันออกมาพร้อมรอยยิ้มด้วยความเขินอายจนแก้มขึ้นสี ดวงตาตู่สวยเปล่งประกายความสุขจนคนรอบข้างสัมผัสได้

“จากนี้ไป มาทำกาแฟด้วยกันทุกวันเลยนะ” เขายื่นนิ้วก้อยออกมาตรงหน้าพร้อมคำสัญญา และได้รับคำตอบเป็นนิ้วก้อยนุ่มนิ่มที่ยื่นมาเกี่ยวกัน

หลังจากนั้นกิจการร้านกาแฟของโซ่ ก็มีคนทั้งสองหมั่นพัฒนาให้ดีขึ้นมาตลอด เขาและเธอคอยเติมความรักให้หวานชื่น คอยดูแลและเอาใจใส่กันอยู่เสมอมา ทำให้ลูกค้าในร้านที่แวะเวียนมาเห็นภาพนี้ต่างก็เอ็นดู ถึงกับบ่นว่ากาแฟภายในร้านหวานขึ้นมาหลายเท่าเลยทีเดียว เหมือนกับความรักในครั้งนี้….หวานละลายใจ